วันที่ 16 มิ.ย.66 สตม. แถลงข่าวผลการดำเนินการ ณ ห้องสวนพลู ชั้น 2 สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง อาคารเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระชนมพรรษา 60 พรรษา ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จว.นนทบุรี โดยมีรายละเอียด ดังนี้

บก.ตม.5 จับหนุ่มแดนมังกร หลอกลวงคนไทยลงทุนไฮบริดสแกม เสียหาย 140 ล้านบาท
บก.ตม.5 จับกุมนายจาง (นามสมมุติ) สัญชาติจีน อายุ 37 ปี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ในข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน โดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น, ซ่องโจร ความผิดตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พ.ศ.2556 และความผิดตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 พร้อมด้วยของกลาง บัตรประจำตัวประชาชนของประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน หนังสือเดินทาง และโทรศัพท์ ส่งพนักงานสอบสวน สน.บางเขน ดำเนินการตามกฎหมาย
.
พฤติการณ์จับกุม สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้สั่งการให้ กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 5 ติดตามจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญ ซึ่งร่วมกันก่อเหตุหลอกลวงประชาชน โดยคนร้ายได้ใช้เครือข่ายเฟซบุ๊ก และไลน์ ก่อเหตุหลอกลวงประชาชนในลักษณะหลอกลงทุนไฮบริดสแกม ซึ่งกระทำการเป็นเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ โดยศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีคำสั่งที่ 3/2566 ให้สืบสวนขยายผลในคดีอาญาที่ 1471/2565 ของ สน.บางเขน กรณี นายสุธี ผู้เสียหาย แจ้งความร้องทุกข์ให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีกับกลุ่มคนร้ายซึ่งร่วมกันก่อเหตุหลอกลวงให้ลงทุนไฮบริดสแกม ทำให้ผู้เสียหายได้รับความเสียหายเป็นเงินจำนวนกว่า 140 ล้านบาท และมีการทำเป็นเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ
จากการตรวจสอบในระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ตม. พบว่านายจาง ผู้ต้องหาตามหมายจับ ได้เดินทางเข้ามาและอยู่ในประเทศไทย เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ทำการสืบสวนติดตามตัว จนกระทั่งเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2566 พบผู้ต้องหากำลังจะเดินทางออกนอกราชอาณาจักรฯ ที่บริเวณด่านผ่านแดนบ้านสบรวก อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวเข้าจับกุม เบื้องต้นนายจาง ให้การรับสารภาพว่าได้หลอกลวงผู้เสียหายจริง โดยนายจาง ผู้ต้องหา รับผิดชอบเป็นเจ้าของกระเป๋าเงินดิจิตอลต้นทาง ที่สร้างขึ้นเพื่อใช้หลอกลวงให้ผู้เสียหายโอนเงินสด ซื้อเหรียญดิจิทัล ก่อนที่กลุ่มเครือข่ายของคนร้ายจะโยกย้ายเหรียญจากกระเป๋าเงินดิจิตอลดังกล่าวออกไป
.